ร้อยไหมในกรุงเทพ

ร้อยไหม ยกกระชับใบหน้ากับ MedConsult Clinic

ร้อยไหม คือ หนึ่งในหัตถการเสริมความงามสำหรับยกกระชับใบหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัดดึงหน้าแต่อย่างใด การร้อยไหมเป็นการใช้ไหมละลายเกรดการแพทย์ใส่เข้าไปยังชั้นใต้ผิวหนังของคนไข้ ซึ่งเงี่ยงไหมจะยึดเกาะกับชั้นผิว จากนั้นแพทย์จะทำการ “ดึง” ผิวของคนไข้โดยการขันด้าย เพื่อให้ผิวยกกระชับในบริเวณที่ต้องการ

การร้อยไหม สามารถให้ผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ โดยสามารถทำได้หลายตำแหน่งบนในหน้า ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่สามารถคาดหวังได้จากการร้อยไหมนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ รวมไปถึงความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ของแพทย์ รวมถึงความเข้าใจในลักษณะเฉพาะทางสรีรวิทยาของผู้ป่วย ตลอดจนความมุ่งมั่นในการรักษา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหัวใจสำคัญของผลลัพธ์ร้อยไหมที่ราบรื่น เป็นธรรมชาติ และสร้างผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจที่สุด

Dr. Donna Robinson คือ แพทย์ประจำเมดคอนซัลท์คลินิก เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองด้าน Botox และ Dermal Filler โดยได้รับการฝึกอบรมจาก Harley Street ประเทศอังกฤษ โดยที่เมดคอนซัลท์คลินิก เราเน้นการดูแลรักษาคนไข้แบบองค์รวม แนะนำผลิตภัณฑ์และเทคนิคการร้อยไหมที่เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้แต่ละบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและเป็นไปตามมาตรฐาน เมดคอนซัลท์คลินิก คือ คลินิกโบท็อกซ์สุขุมวิทที่มุ่งมั่นมอบผลลัพธ์ที่น่าพึ่งพอใจที่สุด

บริเวณที่ต้องการรักษาด้วยไหมยกกระชับ

การร้อยไหม เป็นหัตถการที่นิยมใช้เพื่อแก้ปัญหา “ความหย่อนคล้อย” บริเวณใบหน้า ซึ่งมักมีสาเหตุมาจากอายุที่มากขึ้น โดยสามารถแก้ปัญหาได้หลายจุด เช่น:

✓ กราม - ช่วยปรับรูปหน้าให้กระชับ กรอบหน้าชัด ใบหน้าเรียว เห็นแนวกระดูกกรามชัดขึ้น

✓ เส้นคิ้ว - ยกหางคิ้ว หางตาให้ดูกระชับ

นอกจากนี้ การร้อยไหมยังใช้เพื่อยกกระชับบริเวณทรวงอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการตั้งครรภ์หรือลดน้ำหนัก

  • หน้าผาก - กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบริเวณชั้นผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน ลดริ้วรอย
  • แก้ม - ยกกระชับผิวช่วงหน้าแก้มที่หย่อนคล้อย ลดรอยพับร่องแก้ม ทำให้ร่องแก้มดูเต็มขึ้น
  • คอและเหนียง - ลดความหย่อนคล้อยของเหนียง ทำให้ผิวรอบบริเวณยกกระชับขึ้น
  • จมูก - ช่วยปรับสันจมูกให้โด่งขึ้น พร้อมช่วยลดขนาดปีกจมูก
ภาพการร้อยไหมสำหรับเว็บไซต์

เห็นผลได้เร็วแค่ไหนหลังการร้อยไหม?

คนไข้สามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ เพราะเงี่ยงไหมที่คล้ายตะขอจะเกี่ยวดึงผิวขึ้นได้ทันที อย่างไรก็ตาม การกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนของไหมละลายจะใช้เวลาประมาณสองสัปดาห์ถึงจะเห็นผล ซึ่งหลังจากนั้น ผิวจะดูกระจ่างใสและกระชับเต่งตึงเป็นธรรมชาติ

ผลลัพธ์ของการรร้อยไหมอยู่ได้นานแค่ไหน แล้วควรร้อยไหมบ่อยแค่ไหน?

ระยะเวลาผลลัพธ์ของการร้อยไหมขึ้นอยู่กับอายุและการตอบสนองต่อการรักษา รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังร้อยไหม โดยส่วนใหญ่ การร้อยไหมให้ผลลัพธ์ได้ในระยะยาว ผู้ป่วยบางรายที่มีอายุน้อยอาจเห็นผลได้นานถึงสองปี ส่วนผู้ป่วยที่มีอายุมาก ผลลัพธ์การร้อยไหมอาจอยู่ได้ราวหกเดือน ก่อนที่จะต้องกลับมาทำหัตถการอีกครั้ง

การร้อยไหมมีค่าใช้จ่ายเท่าไร?

ค่าใช้จ่ายในการร้อยไหมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณที่ทำการรักษา จำนวนไหม รวมถึงชนิดของไหมที่ใช้ โดยที่เมดคอนซัลท์คลินิก มีราคาร้อยไหมเริ่มต้น คือ

แบรนด์ ราคาปกติ (ต่อกระทู้เป็นเงินบาท) ราคาลดพิเศษ (ต่อกระทู้เป็นเงินบาท)
กระทู้มิเนอร์วา 3,990 1,888
มิ้นท์ สบายดี 8,990 1,888
กระทู้ Licellvi 7,500 2,888

ปกติแล้ว Thread Lift จะใช้กี่เธรด?

จำนวนเส้นด้ายที่ใช้ในการร้อยไหมอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับพื้นที่การรักษาและผลลัพธ์ที่ต้องการ คำแนะนำคร่าวๆ มีดังนี้

  • ยกกระชับกลางหน้าและแก้ม: โดยทั่วไปจะมี 4 ถึง 8 เธรดต่อด้าน
  • โครงหน้ากราม: โดยปกติจะมี 2 ถึง 6 เธรดต่อด้าน
  • ยกคอ: มักจะมี 4 ถึง 8 เธรด
  • ลิฟติ้งคิ้ว: โดยทั่วไปจะมี 2 ถึง 4 เธรดต่อด้าน

จำนวนที่แน่นอนจะถูกกำหนดในระหว่างการปรึกษาหารือกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรา ซึ่งจะปรับการรักษาให้ตรงกับความต้องการส่วนบุคคลของคุณ เราเสนอ ฟรี การให้คำปรึกษาด้านความงามเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับคำแนะนำและการดูแลที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

การร้อยไหมมีกี่ชนิด?

ไหมจะมีด้วยกันอยู่สองชนิด คือไหมไม่ละลาย และไหมละลาย ซึ่งในปัจจุบัน ไหมละลายเป็นที่นิยมใช้ในคลินิกเสริมความงามมากกว่า เนื่องจากเป็นไหมที่ได้รับการรับรองว่ามีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อน ไหมละลาย เป็นไหมที่ได้การรับรองความปลอดภัยจาก อย.ประเทศไทย และ FDA จากอเมริกา ทำด้วยวัสดุ Polydioxanone หรือ Polycaprolactone เมื่อเวลาผ่านไป ไหมสามารถละลายได้เองโดยอาศัยกลไกตามธรรมชาติของร่างกาย จึงไม่ทิ้งสารตกค้าง ไม่มีผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อน และได้รับความนิยมมากในประเทศไทย ไหมละลายสามารถแบ่งออกได้เป็นสามประเภท โดยจำแนกตามวัสดุที่ใช้ ได้แก่

  • PDO (Polydioxanone) คือชนิดไหมที่นิยมใช้งานมายาวนานที่สุด มีความยืดหยุ่นสูง มีลักษณะอ่อนนิ่ม ไม่หัก ไม่เปราะ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหลังทำ แต่มีอายุการใช้งานราว หกเดือนก่อนจะละลายไป
  • PLLA (Poly L-Lactic Acid) เป็นวัสดุที่มีจุดเด่นด้านความแข็งแรง สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชั้นใต้ผิวหนังได้ดี โดยสามารถให้ผลลัพธ์ได้นานสูงสุดถึง สิบแปดเดือน ทั้งนี้อาจเปราะหักได้ง่าย จึงไม่ค่อยเป็นที่นิมยมมากนัก
  • PCL (Poly Caprolactone) เป็นไหมละลายชนิดใหม่ มีความยืดหยุ่นสูง อีกทั้งยังมีส่วนผสมของ PLLA ในสัดส่วนที่เหมาะสม จึงทำให้เป็นวัสดุเส้นไหมที่ให้ผลลัพธ์ได้ดีที่สุดในตอนนี้ โดยมีอายุการใช้งานประมาณ หนึ่งปี
  • ปวดเล็กน้อยบริเวณที่ฉีดด้าย

มีโรคประจำตัวร้อยไหมได้ไหม โดยทั่วไป ผู้ที่มีโรคประจำตัวนั้นจะสามารถแบ่งได้เป็น 15 กลุ่ม คือ กลุ่มที่สามารถร้อยไหมได้และกลุ่มที่ไม่สามารถร้อยไหมได้ ซึ่งกลุ่มโรคที่ไม่แนะนำให้ร้อยไหมและควรปรึกษาแพทย์ก่อน ได้แก่ โรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคไทรอยด์เป็นพิษ เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงขณะที่ร้อยไหม หรือหลังร้อยไหมได้ง่ายกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้ ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการร้อยไหมเช่นเดียวกัน

ผลข้างเคียงของการร้อยไหมที่หายาก แต่อาจเกิดขึ้นได้ การร้อยไหมถือเป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงต่ำ ไม่ต้องผ่าตัด และใช้เวลาพักฟื้นน้อย แต่หลังจากการร้อยไหม คนไข้อาจพบผลข้างเคียงดังนี้

  • รอยฟกช้ำ
  • อาการบวมแดง
  • มีเลือดออก
  • ปวดเล็กน้อยบริเวณที่ร้อยไหม
  • รู้สึกตึงผิวหน้า
  • อาการแพ้ส่วนผสมในวัสดุของไหม

โดยอาการเหล่านี้ เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปและไม่อันตรายแต่อย่างใด โดยอาการบวมแดง เขียวช้ำ ในจุดที่ร้อยไหมจะหายไปเองภายใน สอง-สาม วัน ส่วนอาการตึงบริเวณใบหน้าจะหายเองภายในช่วง หนึ่ง-สอง สัปดาห์แรกหลังทำหัตถการ คนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการแกะ เกา หรือกดนวดบริเวณที่ร้อยไหม ทั้งนี้อาจมีโอกาส สิบห้า-สิบหก% ที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น

  • เลือดออกหลังทำหัตถการ
  • เกิดรอยบุ๋มที่มองเห็นได้ชัด
  • การเคลื่อนตัวของเส้นไหมโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งส่งผลให้ผิวหนังมีลักษณะเป็นก้อนหรือนูนขึ้น
  • ปวดใต้ผิวหนังเพราะด้ายแน่นหรือหย่อนเกินไป

สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำการร้อยไหม?

  • ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเป็นเวลาอย่างน้อย หนึ่งสัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เนื่องจากอาจทำให้ผิวหนังขาดน้ำและอาจส่งผลต่อขั้นตอนการร้อยไหม
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารบางชนิด เช่น น้ำมันปลาที่มีโอเมก้า อาหารที่มีวิตามินอี โสม พริก กระเทียม และอาหารเสริมอื่นๆ อย่างน้อย สองวันก่อนการรักษา ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงชาเขียวและชาขิงด้วย
  • ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ใช้แอสไพริน เช่น นาพรอกเซน นาโปรเจซิก นิวโรเฟน และไอบูโพรเฟน เนื่องจากอาจทำให้เลือดออกมาก ส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์หรือภาวะแทรกซ้อน
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูง การซาวน่า หรือห้องอบไอน้ำ

กิจกรรมที่ควรเลี่ยงหลังร้อยไหม

คนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังจากร้อยไหม อย่างไรก็ตาม ในช่วง สอง-สามสัปดาห์หลังการรักษา ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการถูใบหน้าอย่างรุนแรง ไม่นอนตะแคง หลีกเลี่ยงการซาวน่าและกิจกรรมที่มีความเข้มข้นสูง เช่น การออกกำลังกายหนักๆ หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง เนื่องจากอาจทำให้ไหมเคลื่อนตัว หรือละลายก่อนที่ควร

ทั้งนี้ ในช่วง สอง-สามสัปดาห์แรกหลังร้อยไหม American Society of Plastic Surgeons แนะนำให้ลดการใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์บริเวณผิว และนอนหงายโดยยกศีรษะขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการพลิกตัวทับไหม

ดร.ดอนน่า

1392644 S

Dr Donna ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ MedConsult Clinic ยังเป็นผู้อำนวยการด้านการแพทย์อีกด้วย เธอพร้อมเสมอในคลินิกเพื่อขอคำปรึกษาและดูแลทีมแพทย์ทั้งหมด เธอมีประสบการณ์มากกว่า 35 ปี และใช้เวลา 25 ปีในการฝึกในประเทศไทย เธอรักษาความสัมพันธ์อันดีกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของประเทศไทย เธอสามารถพูดได้สองภาษาและถือใบอนุญาตแพทย์ไทยและใบอนุญาตทางการแพทย์ของสหราชอาณาจักร ผู้ป่วยมักจะยกย่องความสามารถของ Dr Donna ในการวินิจฉัยปัญหาที่ซับซ้อนที่สุดที่กำลังดำเนินอยู่ และชื่นชมมารยาทข้างเตียงที่เป็นมิตร อบอุ่น และเอาใจใส่ของเธอ